Friday, August 18, 2017

August 18, 2017

"เฮนน่า" ปิดผมขาวสบายใจแบบสายคลีน





"สายคลีน" ทั้งหลายคงเป็นที่รู้ซึ้งกันดีถึงสารเคมีอันตรายที่ล้อมกรอบชีวิตเราอยู่  แต่ที่ใกล้ชิดติด(หนัง)ศีรษะที่สุดคงไม่พ้นยาย้อมผม ที่ไม่เพียงทำลายสุขภาพผมเงางามของเราอย่างโหดร้ายทุกครั้งที่ใช้ แต่เคมีบางตัวยังสามารถซึมผ่านรากผมลงไปสู่ร่างกาย บางตัวถูกระบุว่าเป็นสาเหตุหนึ่งให้เกิดมะเร็งร้ายกันเลยทีเดียว

เรื่องนี้ไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาลอยๆ มีการถกเถียงกันถึงสารเคมีหลายพันชนิดที่ใช้กันในยาย้อมผมแบบถาวร งานวิจัยมหาวิทยาลัยแห่งเซาธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนียในปี 2001 พบว่าผู้หญิงที่ใช้ยาย้อมผมแบบถาวรเดือนละครั้งเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี มีความเสี่ยงต่อมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะสูงขึ้นสองเท่า

วารสาร American Journal of Epidemiology เคยเผยแพร่งานวิจัยที่ระบุว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยาย้อมผมและการป่วยด้วยโรคมะเร็งแบบ lymphoid neoplasma (มะเร็งของเม็ดเลือดที่เกิดขึ้นในต่อมน้ำเหลือง)

หากลองอ่านฉลากหลังผลิตภัณฑ์ย้อมผมประเภทย้อมเร็วได้สีดังใจ จะพบว่ามีรายชื่อสารเคมีมากมาย รวมทั้ง p-phenylenediamine (PPD) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพ้และสัมพันธ์กับมะเร็ง




เปลี่ยนสีมีแต่เสียว


ไม่ต้องให้นักวิทย์มายืนยัน เราเองก็รู้กันทั้งนั้นว่ายาย้อมแบบเคมีทำลายสุขภาพผมแบบเห็นๆ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และแอมโมเนียซึ่งทำหน้าที่ช่วยเปิดเส้นผมชั้นนอกหรือคิวติเคิลออก ดึงสีธรรมชาติออกมาแล้วใส่สีใหม่ลงไปแทน เป็นตัวการทำให้ผมแห้ง ยาย้อมผมแบบชั่วคราวบางสูตรอาจทำลายเส้นผมน้อยกว่า  แต่ย้อมบ่อยๆ และนานๆ ก็ทำให้ผมแห้งเป็นหมี่กรอบ และมีปัญหาผมหลุดร่วงตามมา

เมื่ออายุน้อยเราเปลี่ยนสีผมเพื่อสร้างความสดใส แต่พออายุมากการย้อมผมกลายเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่เพราะอยากสวยอีกต่อไปแต่เพื่อปิดบังผมขาว ยิ่งอายุมากยิ่งต้องย้อมผมถี่ๆ ผู้หญิงหลายคนเริ่มใจไม่ดีว่าอาจต้องอยู่ยาย้อมผมเคมีไปตลอดชีวิต

"สายคลีน" จึงเริ่มมองหาผู้ช่วยจากธรรมชาติ ที่อาจเป็นอันตรายน้อยกว่า แล้วก็พบว่า "เฮนน่า" ก็คือคำตอบของใจ


เฮนน่าคืออะไร 


เฮนน่าเป็นสมุนไพรเพื่อความงามที่นิยมที่สุดในอินเดียและประเทศแถบร้อนตั้งแต่เอเชียกลางจนถึงโมรอคโค  ทั่วโลกต่างรู้จักกันดีมาหลายพันปีถึงคุณสมบัติมหัศจรรย์ในการบำรุงผมให้แข็งแรง แต่เฮนน่าไม่ได้มีคุณสมบัติแค่นั้น

ส่วนประกอบของโมเลกุลสีส้มแดงหรือเรียกว่าลอโซเนีย อิเนอร์มิส สามารถเปล่งพลังสีเคลือบเส้นผมให้กลายเป็นเฉดสีแดงแปลกตา เฮนน่าจึงถูกผู้หญิงเจ้าปัญญานำมาเป็นส่วนผสมหลักตั้งแต่โบราณกาลเพื่อใช้เคลือบปิดเส้นผมหงอกขาว ช่วยผู้หญิงให้ยังคงความเยาว์ไว้ได้ แม้กาลเวลาจะผ่านไปกี่ปี

เฮนน่า "อินเทรนด์" สุดๆ ในอียิปต์เมื่อ 3000 ปีก่อน ตอนที่พระนางคลีโอพัตราและสตรีอียิปต์โบราณ ใช้สารย้อมสีน้ำตาลแดงจากเฮนน่าทามือเพื่อให้ดูสดใส โดยผสมสีเสียดเพื่อให้สีเข้มขึ้น บุรุษอียิปต์ยังนิยมใช้เฮนน่าย้อมผมและเครา

ชาวอินเดียยิ่ง "คูล" กว่า  เพราะรู้จักใช้ใบสดของเฮนน่าย้อมทั้งผ้า ย้อมสีผม ย้อมขน คิ้ว หนวด จนถึงเขียนลายบนฝ่าเท้า หรือบนผิวกายได้อย่างวิจิตรพิสดาร



สีสันแห่งความงาม​


คนไทยและคนทั้งโลกส่วนใหญ่รู้จักเฮนน่าดีว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมความงามจากอินเดีย แต่จริงๆ มันคือต้นไม้ประเภทเดียวกับที่คนไทยเรียกว่าเทียนกิ่ง (หรือเทียนขาว เทียนต้น เทียนย้อม) และคำว่า Henna จริงๆ แล้วมาจากภาษาอาหรับ โดยออกเสียงว่า Hinna

ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Lawsonia Inermis เป็นไม้พุ่มในเขตร้อนตระกูลลีทราซี (Lytharaceae) ​แหล่งปลูกเฮนน่ามีทั้งในอินเดีย เนปาล อราเบีย มอร็อคโค มอริทาเนีย มาลี เซเนกัล ซูดาน อิหร่าน ปากีสถาน มาดากัสการ์ ออสเตรเลีย และอเมริกา แต่ยกย่องกันว่าเฮนน่าจากแคว้น Rajasthan ประเทศอินเดีย และประเทศเยเมน มีคุณภาพดีที่สุดในโลก

​ผงเฮนน่าแท้ๆ จะสีออกเขียว ได้จากการนำทั้งใบ กิ่ง และก้านมาตากแห้งแล้วป่นให้เป็นผงละเอียด เมื่อนำมาใช้ต้องผสมน้ำจนกลายเป็นครีมข้น  นำมาย้อมหมักกับผมทิ้งไว้หลายๆ ชั่วโมงจนติดดี

แตกต่างจากเคมีที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเส้นผม เฮนน่าจะทำหน้าที่แค่เคลือบผมทั้งเส้นให้กลายเป็นสีน้ำตาลแดง/แดงอมทอง/แดงอมส้ม ขึ้นอยู่กับพื้นผมเดิมของแต่ละคน  แต่เนื่องจากคนเอเชียมีเส้นผมสีเข้ม สีของเฮนน่าจึงไม่เห็นเด่นนักบนผมดำ แต่จะเห็นชัดกว่าบนเส้นผมสีเงินหรือขาว  ผลจึงดูเหมือนไฮไลท์ธรรมชาติท่ามกลางผมสีเข้ม

เฮนน่ามีคุณสมบัติการติดทนเทียบเท่าสีย้อมแบบกึ่งถาวร เมื่อย้อมเฮนน่าแล้วสีจะติดเส้นผมนาน 3–4 สัปดาห์ จากนั้นเฮนนาจะค่อยๆ หลุดจางไปตามการสระผม


เกร็ดกรุบกริบเรื่องเฮนน่า


*เฮนนา 100% จะเป็นผงสีเขียวอ่อนๆ แต่บางสูตรเราจะเห็นสีที่ต่างไป เพราะผู้ผลิตเฮนน่านิยมผสมสมุนไพรอย่างอื่นลงไปด้วย เช่น อัมลา (Amla) หรือมะขามป้อม เพื่อช่วยปรับลดโทนแดงให้ออกน้ำตาล  และยังทำให้ผมดกดำไม่หงอกเร็ว บางสูตรยังอาจผสมคราม (Indigo) เพื่อให้ออกสีเข้มขึ้น

*ผู้หญิงหลายคนท้อใจแค่ได้รู้ว่าการทำสีผมด้วยเฮนน่าไม่รวดเร็วทันใจ ว่องไวขนาดแค่ 5-10 นาทีเหมือนที่เคยใช้สารเคมี ขอให้ระลึกว่ายิ่งเร็วทันใจเท่าใด ได้ผลถูกใจราวปาฏิหาริย์เท่าใด ก็หมายถึงต้องพึ่งพาความเก่งกาจของสารเคมีมากเท่านั้น การหมักเฮนน่าจนเข้าเส้นผม อาจกินเวลานานถึง 4-6 ชั่วโมง เทียบได้กับการหมักครีมบำรุงผิวพรรณหรือหมักผมเพื่อบำรุงสุดสัปดาห์

*ผมที่ผ่านการย้อมเคมีมาไม่นาน เฮนน่าอาจจะไม่ทำให้เปลี่ยนสีได้อย่างฉับพลัน  ในช่วงแรกอาจต้องรอจนกว่าผมใหม่ที่ยังไม่โดนเคมีจะงอกขึ้นมา ระหว่างนี้ให้หยุดใช้ยาย้อมผมเคมีก่อน แล้วเริ่มใช้เฮนน่าแทนครีมหมักผม  แม้สีผมยังไม่เปลี่ยน แต่เฮนน่าจะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ปรับสภาพเส้นผมให้แข็งแรงขึ้นอย่างรู้สึกได้  ผมจะมีน้ำหนักเงางามกว่าตอนที่ใช้เคมี

*เฮนน่าจะเพิ่มการติดสีตามระยะเวลาที่ใช้ คนที่ทำเฮนน่าครั้งแรกอาจเห็นว่าผมขาวติดสีทองอ่อนมากๆ จึงถอดใจกลับไปใช้ยาย้อมผมเคมีอีก ลองอดทนย้อมเฮนน่าต่ออีกสักสามรอบ จะเริ่มเห็นว่าผมขาวติดสีมากขึ้นและสีเข้มขึ้นทีละน้อย

*พยายามอย่าใช้เฮนน่าสลับกับยาย้อมผมเคมี เพราะการสลับไปมาอาจจะทำให้ไม่ได้ผลทั้งสองอย่าง


วิธีผสมเฮนน่า


1)  นำผงเฮนน่าเทลงในชาม แนะนำเป็นชามกระเบื้องหรือชามแก้วเนื่องจากล้างออกง่าย กะปริมาณเท่ากับที่จะสามารถหมักผมได้ ขึ้นอยู่กับผมสั้นหรือยาว ความหนาบางของผม  ผมสั้นอาจใช้แค่ 50 กรัม ผมยาวอาจใช้ 100 กรัม ผมยาวและหนา อาจใช้ 150 กรัมเป็นต้น

2) ค่อยๆ เติมน้ำร้อนลงไปในเฮนน่าทีละน้อย  แล้วคนให้เข้ากัน  ถ้าส่วนผสมแห้งก็เพิ่มน้ำทีละน้อย คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว

3) หากต้องการให้ผมมีสีเข้มขึ้น แนะนำให้ใช้กาแฟผงใส่ลงไปในเฮนน่า หรือจะนำผงกาแฟผสมกับน้ำร้อนแล้วนำมาเทใส่เฮนน่าแทนน้ำเปล่าก็ได้ หรือจะชงกาแฟดำสดเข้มๆ มาผสมแทนน้ำก็ได้ ความร้อนจะทำให้เฮนน่าคายสีออกมาเร็ว แต่ไม่ควรใช้น้ำร้อนจนเดือด

4) ใช้ไม้พายคนส่วนผสมให้เข้ากันจนมีลักษณะเป็นครีมข้นๆ ลองกะด้วยตัวเองว่าให้ข้นขนาดสามารถป้ายลงบนผมได้อยู่ตัวโดยไม่แห้งเกินไป จนเป็นก้อนสากบนผมและไม่เหลวไปจนหยดไหลเยิ้ม

5) ตั้งเฮนน่าทิ้งไว้อย่างน้อยสัก 2-3 ชั่วโมง ผู้รู้แนะนำว่ายิ่งตั้งทิ้งไว้นานยิ่งดี



วิธีย้อมเฮนน่า 


1) เฮนน่าเหมาะสำหรับย้อมลงบนผมที่สะอาดและแห้งสนิท แนะนำให้สระผมและปล่อยให้แห้งก่อนลงมือย้อมเฮนน่า เมื่อพร้อมแล้ว ให้นำผ้ามาคลุมไหล่กันเฮนน่าไหลเปื้อนเสื้อผ้า

2) สวมถุงมือพลาสติกกันเปื้อน แบ่งผมเป็นช่อๆ โดยใช้ที่หนีบผม  แล้วเริ่มป้ายครีมเฮนน่าลงบนผมจากโคนจรดปลาย หรือจะใช้แปรงเล็กๆ ค่อยๆ จุ่มเฮนน่าทาผมจากโคนจรดปลายก็ได้

3) เมื่อทาเฮนน่าลงบนเส้นผมทั้งศีรษะแล้ว ให้นำหมวกคลุมผมพลาสติกสวมทับ แล้วทิ้งไว้ 4-6 ชั่วโมง สำหรับผมขาวอาจทิ้งไว้ให้นานขึ้นเป็น 6-8 ชั่วโมง สามารถทำงานเบาๆ หรือดูทีวีได้ แต่อย่าออกกำลังกาย เพราะหากเหงื่อออก อาจทำให้ผมเปียกชื้นขึ้นมาได้

4) เมื่อครบเวลาแล้ว ให้ล้างเฮนน่าออกด้วยน้ำอุ่น ล้างจนกว่าผมจะสะอาด

credit image : http://www.christianmoerk.com

ปรับสีเฮนน่าได้เล็กน้อย 


หลายคนอยากลองเฮนน่าแต่ยังตะขิดตะขวงใจกับสีโทนแดง มีสูตรปรับสีเฮนน่าเพิ่มเติมอีกหลายสูตรที่เหล่าเฮนนานิสต้าช่วยกันทดลองและแนะนำไว้

1) ผสมกาแฟ 2-3 ช้อนลงไปหรือผสมผงเฮนน่าด้วยกาแฟดำเข้มข้นแทนน้ำเปล่า สามารถลดโทนแดงลงได้เล็กน้อย

2) คนอินเดียนิยมผสมเฮนน่าด้วยน้ำต้มใบชาเข้มๆ ซึ่งจะทำให้สีสว่างขึ้น

3) ผสมน้ำดอกอัญชันแทนน้ำเปล่า โดยใช้ดอกอัญชัน 30-50 ดอก ต้มรวมกับน้ำชาแล้วคั้นเอาแต่น้ำสีน้ำเงินเข้มผสมกับเฮนน่า ทำให้สีผมเข้มขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับคนไทย

4) หากใช้ผงเฮนน่า 100% ควรเติมน้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก หรือน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลลงไป 1-2 ช้อนชา ทำให้สีติดดีขึ้น แต่ไม่ต้องเติมหากใช้เฮนน่าที่ผสมมะขามป้อม(Amla) มาแล้ว และสำหรับคนผมแห้ง น้ำมะนาวอาจทำให้ผมแห้งขึ้นอีกได้

5) มีคำแนะนำให้ผสมอินดิโก (Indigo) หรือที่คนไทยเรียกว่าคราม เพื่อให้ได้สีเข้มขึ้น เพราะตัวอินดิโกมีสีออกน้ำเงินเข้ม วิธีใช้อินดิโกมีสองวิธี วิธีแรกคือละลายอินดิโกต่างหาก 15 นาทีก่อนหมักผม แล้วค่อยนำมาผสมในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งกับเฮนน่า วิธีที่สองค่อนข้างยุ่งยากคือให้หมักเฮนน่าจนเสร็จ แล้วค่อยหมักอินดิโกอีกรอบ

6) เนื่องจากการหมักผมต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เพื่อเป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ หลายคนจึงฉวยโอกาสผสมไข่ไก่ โยเกิร์ต น้ำมันมะกอก เพื่อการบำรุงลงไปด้วยเลย


           Credit Image : https://www.facebook.com/Hennarella/


เขาซื้อเฮนน่ากันที่ไหน 


เฮนน่าผง 100% สามารถหาซื้อได้ในแหล่งชาวอินเดียของกรุงเทพฯ อาทิ ย่านจักรเพชรพาหุรัดในราคาย่อมเยาว์มาก แต่ผู้ผลิตชาวอินเดียมักนิยมเพิ่มคุณค่าให้กับผงเฮนน่าด้วยการนำสมุนไพรธรรมชาติบำรุงผมใส่ลงไปเพิ่มเติม เช่น มะขามป้อม (Amla)  ส้มป่อย (Shikakai)  มะคำดีควาย (Ritha) กะเม็ง (Bringraj)  เฮนน่าบางยี่ห้อจึงอาจมีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ใครอยากเปิดประสบการณ์สีสันไร้สารพิษกับเฮนน่าสามารถเดินหาซื้อเฮนน่าเหล่านี้ได้ที่ร้านชาวอินเดียใจดีในละแวกพาหุรัด หรือสั่งซื้อเฮนน่าสูตรอินเดียคุณภาพดีทางออนไลน์ก็มีหลายเจ้า



หลายคนที่มีประสบการณ์เฮนน่า มักยืนยันตรงกันว่าหลังจากหมักผมด้วยเฮนน่า สุขภาพผมที่เคยอ่อนแอกลับดีขึ้นกว่าเมื่อครั้งย้อมผมด้วยเคมี เส้นผมนุ่มสลวยดกดำขึ้น และหลุดร่วงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ข้อเสียเดียวนอกจากเลือกสีไม่ได้ คือการย้อมเฮนน่าไม่ได้ง่ายเว่อร์เหมือนย้อมเคมี แต่คิดดีๆ ก็ไม่ได้ยากไปกว่าการหมักผมสุดสัปดาห์ของสาวๆ เช่นกัน

ใครยังนึกภาพวิธีหมักครีมเฮนน่าบนผมตัวเองไม่ออก มาดู Deborah Brommer สาธิตวิธีกำราบปราบผมขาวสุดแสบด้วยเฮนน่าแบบแซ่บซ่าประสาวัย 40+ ในคลิปข้างล่างนี้เลย









Tuesday, August 15, 2017

August 15, 2017

10 ขุมทรัพย์ความคิด ณ ชีวิตวัยเลข 5


ไม่ว่าคุณจะรู้สึก "เก็ท" แค่ไหนในเลข 3  หรือในวันที่ย่างเข้าเลข 4 คุณจะรู้สึก "เติบโต" ขนาดไหน  แต่ทุกสิ่งจะยิ่ง "ตกผลึก" ครั้งใหญ่เมื่อคุณมาถึงวัยเลข 5 

"ฉันรู้สึกถึงพลังใหม่  ขุมทรัพย์ที่อยู่ลึกลงไปในตัวฉัน ฉันสรุปอะไรได้หลายอย่าง และรู้จักฉวยเอาขึ้นมาใช้ในยามต้องการได้เสมอ"  แรดี้ เลอวิน เขียนไว้ใน betterafter50.com 

การ "ตกผลึก" ในวัย 50 ที่ว่าคืออะไร  มาไล่ดูกันเป็นข้อๆ ไปเลย


บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องมีใครถูกหรือผิดก็ได้ 

เราหลายคนมักยอมทุ่มเทเวลาไปกับการอธิบายว่าเราทำสิ่งนั้นเพราะอะไร และพยายามยืนหยัดต่อสู้ว่าความคิดของตัวเราเท่านั้นที่ถูกต้อง เรายอมให้ความสัมพันธ์ของเราสั่นคลอน ขึ้งเครียดและเต็มไปด้วยการถกเถียง  แต่จริงๆ แล้วมันง่ายกว่าเยอะที่จะยอมรับว่า เราสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เห็นต้องคิดเหมือนกันไปทุกเรื่อง จะเป็นไรไปก็แค่คิดต่าง  บางเรื่องก็ไม่เห็นต้องมีใครถูก และยิ่งดีใหญ่ที่ไม่มีใครผิด


หัดรินน้ำในขวดออกบ้าง 

น้ำเต็มขวดปิดฝาแน่น ย่อมไม่มีที่สำหรับบรรจุอะไรใหม่ลงไปอีก ในวัยนี้ขวดทุกใบแน่นแทบจะระเบิด คุณต้องฝึกเทน้ำออกไปบ้างเพื่อให้มีที่ว่างรับการบรรจุสิ่งใหม่ จะเป็นความรู้ ความคิด เงิน อัตตา สมบัติ(บ้า) คุณต้องฝึกแบ่งปัน เททิ้ง มอบให้ ออกไปบ้าง แล้วคุณจะมีที่ว่างเพื่อรับสิ่งที่ดีกว่าเข้ามาในตัวคุณ


"ก็จริงนะ แต่ว่า---"  

เมื่อเกิดความคิดติดลบในหัวของคุณผลุดขึ้นมา  ลองใส่ "ก็จริงนะ แต่ว่า---" สู้กับมันดู ทุกอย่างที่คุณรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ สิ่งใดที่คุณคิดว่าคุณทำไม่ได้  ได้ยินความคิดลบๆ แบบนั้นโผล่มาเมื่อไหร่ ให้บอกตัวเองว่า "ก็จริงนะ แต่ว่า---"  แล้วคุณจะเริ่มรู้สึกเป็นไปได้ขึ้นมานิดๆ  อย่าเห็นดีเห็นงามกับความคิดลบๆ ดูถูกตัวเองไปเสียทุกเรื่อง  แรดี้เสียดายว่าน่าจะรู้เคล็ดลับนี้มาตั้งแต่อายุยี่สิบ  ไม่งั้นเธอคงลงมือทำอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่ได้ทำมาหลายเรื่อง




เราคือ "ผู้นำ" ชีวิตตัวเอง 

คุณอาจไม่เคยคิดว่าตัวคุณมีความเป็นผู้นำ  แต่ในฐานะแม่ คุณคือ "ผู้นำ" คนแรกในชีวิตลูก ยิ่งโตขึ้นเด็กๆ ก็ยิ่งสังเกตสิ่งที่คุณทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน  วิธีที่คุณฝ่าฟันอุปสรรค เอาชนะความกลัว และรับมือกับความไม่มั่นคงในตัวคุณเอง ทุกสิ่งที่คุณทำกับชีวิตคุณนั่นล่ะคือ "ความเป็นผู้นำ" 


การเรียนรู้ทำให้เราเติบโตได้อีก

หลายคนคิดว่าสายไปแล้วที่่จะลงเรียนวิชาใหม่ๆ  หลายคนปฏิเสธเทคโนโลยีเข้าขั้นวิ่งหนี และอีกหลายคนเมินใส่ทุกเรื่องที่ไม่คุ้นเคย แต่ทันทีที่เราปิดรับการเรียนรู้  เราจะแก่ลงอย่างฮวบฮาบ  การเรียนรู้สิ่งใหม่คือการลดอายุตัวเองที่ดีที่สุด  ความสงสัยใคร่รู้ทำให้เรากระฉับกระเฉงและแก่ช้าลงไปมาก

อย่ากลัวความกลัว 

เราเสียเวลาไปเยอะแล้วกับการซุกตัวอยู่ในที่ปลอดภัย  ความกลัวอยู่ตรงไหนเราก็เอาแต่วิ่งหนีมันไปเรื่อยๆ  สุดท้ายมันก็ตามหาเราเจออยู่ดี  มาถึงวันนี้หันไปทำความรู้จักกับมันเลยดีกว่า  ลองกอดคอเป็นมิตร  ทำความสนิทสนมกับความกลัว  ก้าวออกไปทำสิ่งที่คุณกลัวมาตลอดชีวิตบ้าง  เริ่มจากเรื่องเล็กๆ ก่อนก็ได้



เป้าหมายทำให้หัวใจเยาว์

เป้าหมายทำให้ชีวิตมีค่า เมื่อรู้ว่าเรายังมีจุดหมายที่ต้องการไปให้ถึง ชีวิตก็ยังหลงเหลือความท้าทาย ความจำเจเบื่อหน่ายจะหมดไปตั้งครึ่ง  ฝึกตั้งเป้าหมายแล้วท้าทายตัวเองให้ทำสำเร็จ ลงมือทำอะไรเพื่อพัฒนาตัวเองวันละอย่างสองอย่าง เมื่อทำได้แล้วก็ขยายเป้าหมายออกไปทีละนิดๆๆ


ชีวิตเกษียณแบบเก่าๆ จบลงแล้ว

กรอบคิดเรื่องเกษียณแบบคนรุ่นพ่อแม่เราทลายหมดแล้ว อย่าไปคิดว่านี่ช่วงเวลาบั้นปลาย แต่มันคือช่วงเวลาใหม่ที่ท้าทายที่สุด คือฤดูกาลใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน  ไม่มีอะไรที่คุณเริ่มต้นไม่ทันแล้วในวัย 50  ทุกอย่างเริ่มต้นได้เลย งานใหม่ อาชีพที่สอง ธุรกิจที่คุณรัก นี่คือเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก คุณไม่ต้องเป็นใครที่คุณเคยเป็น ไม่ต้องทำอะไรเหมือนๆ ที่คุณเคยทำ ภาคแรกของชีวิตจบไปแล้ว เริ่มเปิดฉากใหม่เพื่อค้นหาตัวคุณเองใหม่ในปัจจุบัน 


วันนี้จะเป็นอดีตของวันพรุ่งนี้

วันนี้คือวันที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้นทุกสิ่ง ถ้าคุณไม่เริ่มก้าวแรกของสิ่งที่คุณต้องการตั้งแต่วันนี้ มันจะส่งผลกับพรุ่งนี้ของคุณไปเรื่อยๆ  อย่าผลัดผ่อนต่อไปอีก  วันนี้เป็นวันของคุณ  วันนี้คือวันที่ดีสุดที่คุณจะเริ่มต้น ไม่ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร เริ่มทำไปเลยตั้งแต่วันนี้






Saturday, August 5, 2017

August 05, 2017

รวมคู่รักแสบจี๊ดวัย 50+ โชว์ความสดใสไม่ยอมให้วัยมาบังความเฟี้ยว





50 แล้วไงใครแคร์?  นั่นสิใคร ใคร ใครที่ไหนแคร์?  ดูเหล่าคู่รักที่อยู่กันยืนยงเหล่านี้สิ ไม่มีใครยอมให้คำว่า "แก่" มาลดทอนความมีสไตล์

ด้วยแรงกระตุ้นใจจาก Bright Side  พาเราไปสาวรูปใน Instagram เพื่อค้นหาคู่รักสุดเฟี้ยว เปรี้ยวจนส้มจี๊ดยังจืด โดยเฉพาะ IG Advancedstyle ที่เจ็บสุดๆ

ทั้งหมดนี้ไม่มีใครเป็นนักร้องหรือดารา พวกเขาคือซูเปอร์สตาร์เดินถนน ความงามและสไตล์ไม่อาจบดบังได้ด้วยคำว่า "อายุ" 

หวังว่ารูปเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้ชาว Agepresso ลุกขึ้นมาแต่งชีวิตให้สดใสด้วยสไตล์แซ่บพริกเจ็ดเม็ด  เด้งเด็ดอย่างที่คุณเป็นคุณเอง!


IG g.krabbenhoft

IG bonpon511

IG bangbangnazare

IG debrarapoport


IG advancedstyle 


IG advancedstyle 

IG advancedstyle 

IG advancedstyle 

IG tuttifruity1


IG advancedstyle 
IG advancedstyle 
IG advancedstyle 

IG advancedstyle 
IG advancedstyle 
IG missweblet

credit :
IG advancedstyle 
IG missweblet
IG g.krabbenhoft
IG bonpon511
IG bangbangnazare
IG tuttifruity1
IG debrarapoport


Sunday, July 16, 2017

July 16, 2017

หน้าเด็กง่ายๆ แค่เข้านอนให้ไวก่อนเที่ยงคืน


กินก็ดีแล้ว ออกกำลังกายก็หนักแล้ว ไปยิมก็บ่อยแล้ว น้ำหนักก็เข้าล็อคแล้ว เรียกว่าดูแลตัวเองในระดับหนึ่งอย่างเพอร์เฟคท์ แล้วทำไมหน้ายังไม่เด็กเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน

อย่าหาว่างี้โง้นงั้น ถามคำเดียวเมื่อคืนคุณนอนกี่โมง!

เหย! ถึงนอนดึกแต่ก็นอนเยอะน้า

มันก็ถูกต้องนะจ๊ะ "นอนพอ" นั้นสำคัญ แต่ "คุณภาพการนอน" นั้นสำคัญกว่า ไม่ใช่แค่หลับตาจะเรียกว่านอน

การนอนที่เยี่ยมยอดที่สุด คือการนอนที่เข้าสู่ภาวะหลับลึกของร่างกาย ความผ่อนคลายบังเกิดเต็มที่

ถ้า "หลับลึก" แบบนี้ได้ยาวพอ  ฮอร์โมนหนุ่มสาวจะหลั่งไหลมาเต็มที่ สิ่งที่เรียกว่า Growth hormones นี้แหละคือเคล็ดลับแห่งความเยาว์

Growth hormones (GH) คือฮอร์โมนแห่งความเติบโตที่สร้างโดยต่อมพิทูอิทารีภายใต้สมอง ฮอร์โมนนี้สำคัญมากในวัยเด็ก ทำให้เราเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มสาวเต็มวัยโดยไม่มีความแคระแกร็น

แต่ยิ่งเราชราลง การผลิตฮอร์โมนนี้ของร่างกายก็ลดลงเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น ยิ่งปริมาณ GH ลดลงเท่าไหร่ สัญญาณความชราก็มาเยือนให้เราช้ำใจเพิ่มขึ้นตามขวบปี

เคยมีงานวิจัยให้คนสูงวัยรับ GH เสริม ปรากฏว่าผมที่เคยหงอกลดลงเริ่มกลับมาดกดำ รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและตามร่างกายลดลง แต่สมรรถภาพทางเพศกลับเพิ่มขึ้น

GH สำคัญต่อความเยาว์เพียงนี้ เชื่อไหมเราต่างมีโอกาสที่จะโกย(ส่วนที่น้อยนิด)มาสะสมฟรีๆ  แล้วทำไมพี่ๆ ถึงไม่ทำ!

ถ้าอยากชะลอความเยาว์ไว้อยู่กับเราให้มากที่สุด ถึงเวลามาโกย GH ฟรีๆ ด้วยการนอนแบบนี้ก่อนเที่ยงคืนดีกว่า!

ทิปเด็ดแรก : 1 ชั่วโมงก่อนเที่ยงคืน = 2 ชั่วโมง

ยิ่งเข้านอนก่อนเที่ยงคืนเท่าไหร่ ให้ถือว่าได้ชั่วโมงการนอนเพิ่มขึ้นเท่าตัว เพราะยิ่งหัวถึงหมอนไว แปลว่าคุณปรับร่างกายให้เข้ากับนาฬิกาธรรมชาติของแสงตะวันอยู่

ในโลกสมัยนู้นก่อนที่จะมีแสงอาทิตย์เทียม (หลอดไฟ) มนุษย์เราเข้านอนไวกว่าสมัยนี้มาก เรียกว่าพอตะวันลับฟ้า ก็เตรียมปูผ้านอนกันเลยทีเดียว เพราะความมืดจะกระตุ้นให้ต่อมไพเนียลทำหน้าที่สังเคราะห์ "เมลาโทนิน" ออกมาเพื่อเตือนร่างกายว่า "พักผ่อนได้แล้วนะตัวเธอ"  

เมลาโทนินทำหน้าที่แข็งขัน สร้างความง่วงนอนและความหลับ ฮอร์โมนแห่งรัตติกาลนี้เองที่ช่วยในการหลั่งของฮอร์โมนแห่งความเติบโต ดังนั้นจึงหลังจากตะวันลับฟ้า พอเจ้าเมลาโทนินขยับตัวเริ่มทำงาน ก็ส่งไม้ประสานให้ระดับ GH ของเราค่อยๆ เพิ่มขึ้นช้าๆ จนไปพีคสุดตอนเวลาราวเที่ยงคืน

ดังนั้น ยิ่งคุณเข้านอนก่อนเที่ยงคืนเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นเท่านั้น ที่คุณจะหลับสนิทดี ทันช่วงที่ GH สูงสุด

รู้แบบนี้แล้วจะมัวถูจอมือถือจนตีหนึ่งตีสองไปทำไม! เข้านอนให้ไวสักสองสามชั่วโมงกันดีกว่า

Photo by Chris Thompson on Unsplash

ทิปเด็ดสอง : นอนให้ถึง 8 ชั่วโมง

นอนเร็วก็จัดว่าเยี่ยมแล้ว ยิ่งนอนได้นานพอก็ยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นอีก ร่างกายของเราผลิต GH เป็นคลื่น ถ้านอนน้อยก็เจอจุดยอดคลื่นน้อย นอนมากชั่วโมงก็ยิ่งสะสม GH ได้มากรอบกว่า

ทิปเด็ดสาม : นอนให้หลับลึก 

-ปิดทุกสิ่งที่เร้าโสตประสาท เช่น ทีวี มือถือ คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ก่อนเวลาเข้านอน 1 ชั่วโมง
-ลดปริมาณคาเฟอีนในช่วงบ่าย
-ทำห้องให้ชวนนอน  มีอุณหภมิที่พอเหมาะ มืด เงียบ


รู้แบบนี้อย่าได้ช้า ได้เวลาโกยฮอร์โมนเพื่อความหน้าเด็กกัน  คืนนี้รีบเข้านอนตอนสี่ทุ่ม 
หลับให้ลึก/ให้ดี/ให้ยาว ให้โอกาส "ความอ่อนเยาว์" มาเยือนคุณ!




__________________________________

Source :  http://www.novexbiotech.com









Thursday, July 13, 2017

July 13, 2017

เลข 5 แล้วไง! มาดู 12 นักธุรกิจตีนปลาย ผู้กล้าเปลี่ยน “รีไทร์” ให้กลายเป็น “รีเทิร์น”



คือมันก็จะลนๆ หน่อยใช่ไหม เมื่อมองเห็นคนอื่นไปถึงไหนๆ แต่คุณเองยังไม่ได้เริ่มลงมือทำอะไรจริงจังตามความฝันทั้งที่อายุเลยเลข 4 เข้ามาหลายพรรษา เฉียดเลข 5 จนมาถึงกลางทางแล้ว 

ที่ง้างว่าจะลงมือเขียนนิยายเจ๋งๆ สักเล่มยังไม่ได้หน้าแรก แอพที่คิดๆ ไว้ก็ยังไม่ได้ลงมือทำ ธุรกิจขนมไทยที่แอบร่างไว้ก็ยังไม่ได้เริ่ม

เย็นไว้ค่ะซิสและโบร โปรดทราบว่าบุรุษสตรีที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นผลงานซิกเนเจอร์ ตอนที่พวกเขาและเธอย่างเลข 5 มีเยอะคน

เคยได้ยินมาบ้างใช่ไหม จูเลีย ไชลด์ (Julia Child) ที่ทำงานในวงการสื่อและโฆษณามานาน แต่มาโด่งดังเป็นเชฟแม่ของวงการทำอาหาร เพราะหนังสือ Cook Book ที่เธอเริ่มเขียนตอนอายุ 50  

เรย์ คล็อค (Ray Kroc) เซลส์แมนขายเครื่องทำมิลค์เชค ตัดสินใจซื้อกิจการ McDonald's  และปั้นจนกลายเป็นแฟรนไชส์อาหารใหญ่ที่สุดในโลกตอนที่เขาอายุ 52 

ฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส (Harland Sanders) คุณลุงใจดีที่เรารู้จักกันในฐานะผู้พันแซนเดอร์ส สร้างธุรกิจไก่ทอดสะท้านโลก Kentucky Fried Chicken ในปี 1952 ตอนที่เขามีอายุ 62 

“ม้าตีนปลาย” เหล่านี้ไม่กลัวหมดอายุขัยวัยทำงาน ถึงย่างเข้าเลข 5 แต่ไม่มีคำว่าสาย พวกเขาจับคำว่า “รีไทร์” มาคว่ำ แล้วทำให้กลายเป็น “รีเทิร์น” ได้อย่างสวยๆ

เลข 5 กลับกลายเป็นแกนหมุนสำคัญ หลายคนยังสนุกกับงาน รีบขึ้นมาแพคประสบการณ์ที่ทั้งลึกและกว้าง ลุกขึ้นมาสร้างธุรกิจเปลี่ยนชีวิต ว่ากันว่าถ้าคนในวัย 55+ และ 65+ เริ่มทำธุรกิจแล้วไซร้ จะมีศักยภาพสร้างอินโนเวชั่นได้ดีกว่าคนอายุ 25 เสียอีก

รีด แฮสติ้งส์ ซีอีโอแห่ง Netflix บอกว่า  ผมเริ่มต้นบริการให้เช่าดีวีดี  Netflix DVD ตอนอายุ 37 แล้วปรับมาเป็นสตรีมมิ่งวิดีโอตอนอายุ 47 มันไม่น่ากลัวหรอกที่จะเริ่มหลัง 35 แต่ว่าจะเหนื่อยหน่อยเท่านั้น” 

ชาวเราเลข 5 ที่อยากเริ่มจับอะไรใหม่ๆ หากยังหวั่นๆ ใจ มาให้ 12 รุ่นพี่ต่อไปนี้เป็นแรงบันดาลใจกัน


Via : http://www.marthastewart.com/
 
มาร์ธา สจ๊วต (MARTHA STEWART) สุดยอดผู้หญิงที่แปรทักษะแม่บ้านและการทำอาหารแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่โด่งดังไปทั้งโลก ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรอย่างที่เธอทำทุกวันนี้เลยจนปี 1998 เธอเขียนหนังสือเล่มแรกตอนอายุ 57 เข้าไปแล้ว!




Via : ernestineshepherd.net
เออร์เนสทีน เชพเพิร์ด (Ernestine Shepherd) หันมาออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อตอนอายุ 56 ด้วยแรงบันดาลใจจากพี่สาว หญิงแกร่งคนนี้เรียนมาหมดทุกคลาสจนเชี่ยวชาญ เลยผันตัวมาสร้างคลาสสอนคนอื่นบ้างเสียเลย โดยคลาสของเธอจะรับรุ่นใหญ่แค่ครั้งละสิบคนเท่านั้น ถึงวันนี้เธอมีอายุ 81 ปีแล้ว




Via : Angie Higa (@skydreamsllc) | Twitter
แองจี้ ฮิกา (Angie Higa) คร่ำหวอดในแวดวงธนาคาร 30 ปี ก่อนตัดสินใจเอิร์ลลี่รีไทร์มารับหน้าที่คุณย่า ดูแลหลานสาวแทนพ่อต้องไปรบในอัฟกานิสถาน จากผู้หญิงทำงานมาอยู่บ้านทั้งวัน เธอค้นพบความสนุกสนานในการออกแบบตัดเย็บ วันหนึ่งหลังเป็นหวัดงอมแงมเพราะขึ้นเครื่องที่ไม่มีผ้าห่มแจกให้ แองจี้ตัดสินใจสร้าง Sky Dreams ขายผ้าห่มและหมอนสำหรับคนเดินทางของตัวเอง





Via : eyesmithoptical.com
แรนด์ สมิธ (Rand Smith) ทำงานในอุตสาหกรรมแว่นตามา 30 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประตูก้าวออกมาจากคอมฟอร์ทโซน แล้วลงมือสร้างธุรกิจโดนๆ ร่วมกับภรรยาของเขาเอง ทั้งคู่ลงทุนเอาเงินเกษียณมาเปิด Smith Sport & Fashion Optical ขายแว่นตาแฟชั่นและกีฬาที่เขาถนัดสุดๆ ในวัยเกิน 50
 



Via : buildingnynylifestories.com
ลินน์ บรู๊คส์ (Lynn Brooks) พบว่าผู้คนส่วนใหญ่ฝันใฝ่อยากมาสัมผัสนิวยอร์กแต่ก็กลัวในความใหญ่และวุ่นวายของเมือง เธอปั้นไอเดียธุรกิจใหม่ Big Apple Greeter จับคู่นักท่องเที่ยวหน้าใหม่ที่มาเยือนนิวยอร์กครั้งแรกกับอาสาสมัครพาชมเมืองที่เรียกว่า ‘Greeters’ ในวันที่มีอายุ 59 ปี





Via : overfiftyandoutofwork.com
ลอร์เรน แคมป์แมน (Lorraine Campman) เบื่องานออฟฟิศที่ทำมาเนิ่นนานสุดใจ เธอตัดสินใจไปอบรมในคลาสผู้ประกอบการหน้าใหม่ และลงแรงสร้างธุรกิจจากหัวใจนักดนตรีของตัวเอง ตอนที่เธอเปิดศูนย์ดนตรีรับสอนเปียโนให้กับบรรดารุ่นใหญ่นั้น เธออายุ 56 ปี



Via : thewirelessincome.com
คริส-ซูซาน บีสลีย์ (Chris -Susan Beesley) เคยทำงานที่ปรึกษาทางบัญชี ทั้งคู่มีลูก 5 หลานอีก 3 และไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ แต่ยังฝ่าฟันจนสามารถสร้างบล็อกให้ความรู้ทางธุรกิจแก่นักธุรกิจชื่อ www.chrisandsusanbeesley.com ขึ้นมาได้สำเร็จในวัยกลาง 50



Via : twitter.com/michaelgrottola
ไมเคิล กร็อตโทล่า (Michael Grottola) มีอันต้องตกงานตอนเศรษฐกิจตกต่ำ เลยตัดสินใจลุกขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาอิสระ กลั่นเอาความเชี่ยวชาญของตัวเองมาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เริ่มตั้งไข่ ธุรกิจใหม่ที่เขาสร้างเมื่ออายุ 65




Via : educationquizzes.com
โคลิน คิง (Colin King) รู้ตัวว่าเขามีเงินรองรังไม่พอสำหรับเกษียณแน่ เขาต้องลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองเพิ่มให้ทันการ แม้จะไม่มั่นใจนักกับความรู้ทางเทคโนโลยี แต่โคลินก็ก้าวข้ามอุปสรรคนี้จนก่อตั้งธุรกิจออนไลน์ควิซสนุกเพิ่มพูนความรู้สำหรับเด็ก Education Quizzes เขาทำมันสำเร็จตอนที่มีอายุเกิน 50 ปี



Via : arkenea.com
นอร์แบร์โต โบการ์ด (Norberto Bogard) อดีตผู้สื่อข่าวสายการเงินของสำนักข่าวบลูมเบิร์กในละตินอเมริกาจู่ๆ ก็ถูกเลย์ออฟและหางานดีๆ ทำไม่ได้  จึงต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ เมื่อพบว่านิวยอร์กไม่มีฟรีแมกกาซีนภาษาสเปนอยู่เลย ตอนที่นอร์แบร์โตตัดสินใจก่อตั้ง Pie Derecho  นิตยสารแจกฟรีภาษาสแปนิชที่มียอดตีพิมพ์เดือนละ 10,000 เล่มและสร้างรายได้ด้วยการโฆษณา เขามีอายุเลยหลัก 5 ไปแล้ว




Via : businessadvice.co.uk

แคเรน เคลลี่ (Karen Kelly) ใฝ่ฝันอยากมีธุรกิจตัวเองมานานแล้ว สุดท้ายเธอตัดสินใจทุ่มเงินเก็บที่สะสมมาทั้งหมดเปิดธุรกิจรับทำความสะอาด Cleanhome เพื่อช่วยลูกค้าหาคนทำความสะอาดบ้าน ตอนที่เธอเริ่มธุรกิจ แคแรนอายุได้ 55



Via : Inc.com
ลิซา เกเบิล (Lisa Gable) สร้างธุรกิจดับความรำคาญ เธอจำได้ว่าตอนทำงานต้องเจอปัญหาสายบราชั้นในชอบเลื่อนหลุด จึงลุกขึ้นมาประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่า Strap-Mate และเริ่มต้นธุรกิจผลิตสายบราชนิดใหม่ในวัย 70 ปี!


คนเหล่านี้ประกาศชัดว่าอายุเป็นแค่ตัวเลข แค่ 50 คุณยังมีเวลา อย่ารอช้ารีบลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่คุณอยากทำ!


____________________________________

Source : http://arkenea.com/blog/